ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2017

รักษามานานหลายปีไม่หายสักที จนได้เข้าใจเรื่องนี้

❤️ เจอยาที่ใช่ รักษามานานหลายปี ไม่มีช่วงดีเพรสหรือแมเนียยาวๆแล้ว แต่ชีวิตก็ยังพังๆอยู่ ไม่กลับไปราบรื่นเหมือนก่อนป่วย ผมเป็นแบบนั้นอยู่ราวสิบปีกว่าจะเข้าใจว่าจะหายได้ยังไง อ่านบทความนี้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแบบผม

ลิเธียม ยาดีที่ต้องใช้ให้เป็น

สำหรับคนที่เป็นไบโพลาร์ก็จะได้ทาน ยาคุมอารมณ์ (mood stabilizer) เพื่อจะได้ไม่ต้องมีช่วงแมเนีย และลิเธียมก็คือยาคุมอารมณ์ที่นิยมมากที่สุดตัวหนึ่ง เพราะได้ผลดี, ผ่านมาวิจัยมานานมาก, ราคาถูก และมีส่วนช่วยป้องกันช่วงดีเพรส แต่ลิเธียมเป็นยาที่ใช้ยากนิดนึง เพราะหมอจะต้องค่อยๆปรับยาขึ้นจนกว่าเราจะมียาในเลือดระดับที่พอดี ถ้าน้อยไปมันก็จะไม่ทำงาน ถ้ามากไปก็จะเกิดอาการลิเธียมเป็นพิษ หลายคนที่หมอสั่งลิเธียมให้ พอได้ยินเรื่องลิเธียมเป็นพิษเลยวิตกกังวลหนัก จนความวิตกกังวลนี้กลายเป็นผลข้างเคียงซ้ำซ้อนเข้าไปอีก ดังนั้นคนที่ทานยาตัวนี้จึงต้องเรียนรู้เพิ่มเติมสักนิดนึงเกี่ยวกับมัน บทความข้างล่างนี้มาจากคอลัมน์พบหมอรามา อ่านง่ายและครบถ้วนดี แต่ก่อนอื่นผมจะเกริ่นถึงประเด็นที่ทำให้กังวลกันก่อน ผลเสียจากลิเธียมจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ถ้าแยกจากกันได้แล้วจะใช้มันได้อย่างสบายใจ ผลข้างเคียง ​ คือผลเสียในโดสปกติ  อาการลิเธียมเป็นพิษ  คืออาการป่วยเพราะมีลิเธียมในเลือดสูงเกินไป อาจจะเพราะได้ยามากเกินไป (เช่นโอเวอร์โดส) หรือเพราะสภาพร่างกายผิดปกติไปมากทำให้ขาดน้ำหรือเกลือแร่ บางคนเข้าใจว่าตัวเองแพ้ลิเธียม

คู่มือพบจิตแพทย์ 4 ข้อที่คุณต้องรู้ก่อนจะสาย

น้อยคนจะเคยพบจิตแพทย์มาก่อน บทความนี้รวบรวมประสบการณ์ 6 ปีจากสมาชิกหลายร้อยคนในกรุ๊ปของเรา จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆทำให้เราหายช้า แต่ละข้อทำได้ง่ายๆแต่หลายคนคิดไม่ถึง จึงกลายเป็นปัญหาที่เจ็บปวด ใช้เวลาไม่กี่นาทีอ่านบทความนี้ แล้ววันนึงคุณจะขอบคุณตัวเอง

จัดการความโกรธโดยสัมผัสความรู้สึก

ความคิดและความรู้สึกคืออะไร วิธีจิตบำบัดหลายแบบมีเวอร์ชัน self-help ด้วย คืออ่านหนังสือแล้วก็ฝึกตาม ผมได้ประโยชน์จาก DBT เยอะมากเกี่ยวกับวิธีคิดในการจัดการอารมณ์ แต่คงปฏิบัติไม่จริงจังเลยทำไม่สำเร็จ จนกระทั่งได้อ่านเกี่ยวกับ ACT ซึ่งมีวิธีฝึกเป็นขั้นเป็นตอน ตอนอ่านก็เริ่มเข้าใจทฤษฎีเกี่ยวกับความคิดและความรู้สึก แล้วเมื่อลงมือฝึกก็ได้เห็นกับตาว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ (ไว้จะพูดถึง ACT ละเอียดขึ้นอีกทีภายหลัง) ความคิดทำงานของมันเอง ความคิดมันทำงานของมันเอง เราสั่งมันโดยตรงไม่ได้ เราได้ยินความคิดตัวเองตลอดเวลาเลยนึกว่าเราเป็นคนคิด แต่เปล่าหรอก ACT เปรียบความคิด เหมือนวิทยุที่เพื่อนบ้านเปิดทิ้งไว้ มันจะว่าของมันไปเรื่อยๆ เราหยุดมันไม่ได้ จะเลือกช่องก็ยังไม่ได้เลย ความเข้าใจเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะเวลาโกรธ ความโกรธจะกระซิบบอกเราว่า ให้ "ทำ/พูด ... ซิ แล้วเราจะหายโกรธ" ซึ่งเมื่อเราทำตามแล้ว ผลจะตรงข้ามเสมอ แต่เราก็เชื่อความคิดนี้ทุกที เมื่อเข้าใจจริงๆว่าความคิดทำงานของมันเอง ไม่ใช่ทุกความคิดจะหวังดีกับเรา หลังจากนั้นเราจะเริ่มสงสัยมัน และเลิกทำตามมันในที่สุด แน่นอนอันนี้ต้องใช้เวลาเรีย