สำหรับคนที่เป็นไบโพลาร์ก็จะได้ทานยาคุมอารมณ์ (mood stabilizer) เพื่อจะได้ไม่ต้องมีช่วงแมเนีย และลิเธียมก็คือยาคุมอารมณ์ที่นิยมมากที่สุดตัวหนึ่ง เพราะได้ผลดี, ผ่านมาวิจัยมานานมาก, ราคาถูก และมีส่วนช่วยป้องกันช่วงดีเพรส แต่ลิเธียมเป็นยาที่ใช้ยากนิดนึง เพราะหมอจะต้องค่อยๆปรับยาขึ้นจนกว่าเราจะมียาในเลือดระดับที่พอดี ถ้าน้อยไปมันก็จะไม่ทำงาน ถ้ามากไปก็จะเกิดอาการลิเธียมเป็นพิษ
หลายคนที่หมอสั่งลิเธียมให้ พอได้ยินเรื่องลิเธียมเป็นพิษเลยวิตกกังวลหนัก จนความวิตกกังวลนี้กลายเป็นผลข้างเคียงซ้ำซ้อนเข้าไปอีก ดังนั้นคนที่ทานยาตัวนี้จึงต้องเรียนรู้เพิ่มเติมสักนิดนึงเกี่ยวกับมัน บทความข้างล่างนี้มาจากคอลัมน์พบหมอรามา อ่านง่ายและครบถ้วนดี แต่ก่อนอื่นผมจะเกริ่นถึงประเด็นที่ทำให้กังวลกันก่อน
ผลเสียจากลิเธียมจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ถ้าแยกจากกันได้แล้วจะใช้มันได้อย่างสบายใจ
ส่วนอาการลิเธียมเป็นพิษ ดูในลิสต์ข้างล่าง จะเห็นว่าแตกต่างจากผลข้างเคียงชัดเจน ถ้าเกิดขึ้นก็ทำตามคำแนะนำข้างล่างคือหยุดยา กินน้ำเยอะๆ และนัดหมอเข้าไปทันที
ยาจิตเวชทุกตัวมีผลข้างเคียง ซึ่งแต่ละคนจะโดนไม่เหมือนกันทีเดียว ไม่มียาตัวไหนที่ไม่มีผลข้างเคียง ยาที่ดีที่สุดคือยาที่ได้ผลกับเรา และมีผลข้างเคียงในระดับที่เรายอมรับได้
ลิเธียมเป็นยาในกลุ่มปรับอารมณ์ ช่วยทำให้อารมณ์คงที่ ใช้ในการรักษาและป้องกันการเกิดซ้ำของโรคอารมณ์แปรปรวน การตอบสนองต่อยาในผู้ป่วยแต่ละรายอาจจะแตกต่างกัน หากรับประทานยาสม่ำเสมอ อาการกำเริบซ้ำในครั้งต่อไปจะมีความรุนแรงน้อยกว่าเดิม หรือห่างขึ้นกว่าเดิม ในบางรายอาจไม่เป็นอีกเลย เหตุผลที่ต้องใช้ลิเธียมในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ ผู้รักษา ดังนั้นไม่ควรซื้อยานี้ใช้เอง
ลิเธียมจะเริ่มส่งผลต่อการรักษา เมื่อรับประทานยาติดต่อกัน 2 สัปดาห์และจะให้ผลดีเต็มที่เมื่อรับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์
หลายคนที่หมอสั่งลิเธียมให้ พอได้ยินเรื่องลิเธียมเป็นพิษเลยวิตกกังวลหนัก จนความวิตกกังวลนี้กลายเป็นผลข้างเคียงซ้ำซ้อนเข้าไปอีก ดังนั้นคนที่ทานยาตัวนี้จึงต้องเรียนรู้เพิ่มเติมสักนิดนึงเกี่ยวกับมัน บทความข้างล่างนี้มาจากคอลัมน์พบหมอรามา อ่านง่ายและครบถ้วนดี แต่ก่อนอื่นผมจะเกริ่นถึงประเด็นที่ทำให้กังวลกันก่อน
ผลเสียจากลิเธียมจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ถ้าแยกจากกันได้แล้วจะใช้มันได้อย่างสบายใจ
- ผลข้างเคียง คือผลเสียในโดสปกติ
- อาการลิเธียมเป็นพิษ คืออาการป่วยเพราะมีลิเธียมในเลือดสูงเกินไป อาจจะเพราะได้ยามากเกินไป (เช่นโอเวอร์โดส) หรือเพราะสภาพร่างกายผิดปกติไปมากทำให้ขาดน้ำหรือเกลือแร่
บางคนเข้าใจว่าตัวเองแพ้ลิเธียม แต่อันที่จริงลิเธียมเป็นสารที่ไม่มีทางทำให้แพ้ อาการที่เราเป็นคือ 1 ใน 2 อย่างข้างต้น แต่เราคงใช้คำว่า "แพ้" เพื่อจะได้ปฏิเสธลิเธียม ทำให้หมอต้องใช้ยาคุมอารมณ์ตัวอื่น ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงเหมือนกัน หรืออาจจะมากกว่า เนื่องจากลิเธียมมีลักษณะผลข้างเคียงที่ส่งผลกระทบกับชีวิตน้อย เช่นไม่ค่อยทำให้ง่วง บางทีการทำแบบนี้เลยจะกลายเป็นการหนีแมวปะจระเข้ไป
ผลข้างเคียงนั้นโอเค แต่อาการลิเธียมเป็นพิษไม่โอเค
ดูลิสต์ผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ในบทความข้างล่าง ลิสต์ยาวๆนี้คือผลข้างเคียงที่คนเจอกันบ่อยๆ ไม่ใช่เราจะโดนทุกข้อ แต่ละคนจะโดนต่างกัน แต่ลิสต์นี้คืออันที่พบบ่อย วันแรกๆผลข้างเคียงจะมากหน่อย ไม่ต้องตกใจ มันจะไม่ได้เป็นอย่างนี้ตลอดไป ร่างกายจะปรับตัวแล้วผลข้างเคียงจะค่อยๆลดลงไปเอง แต่ถ้าผ่านไปสักสัปดาห์แล้วผลข้างเคียงยังมากจนเป็นอุปสรรคต่อชีวิตประจำวัน ให้นัดหมอเข้าไปปรึกษาได้เลยส่วนอาการลิเธียมเป็นพิษ ดูในลิสต์ข้างล่าง จะเห็นว่าแตกต่างจากผลข้างเคียงชัดเจน ถ้าเกิดขึ้นก็ทำตามคำแนะนำข้างล่างคือหยุดยา กินน้ำเยอะๆ และนัดหมอเข้าไปทันที
ยาจิตเวชทุกตัวมีผลข้างเคียง ซึ่งแต่ละคนจะโดนไม่เหมือนกันทีเดียว ไม่มียาตัวไหนที่ไม่มีผลข้างเคียง ยาที่ดีที่สุดคือยาที่ได้ผลกับเรา และมีผลข้างเคียงในระดับที่เรายอมรับได้
✄ คอลัมน์ พบหมอรามา
โดย งานการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีลิเธียมเป็นยาในกลุ่มปรับอารมณ์ ช่วยทำให้อารมณ์คงที่ ใช้ในการรักษาและป้องกันการเกิดซ้ำของโรคอารมณ์แปรปรวน การตอบสนองต่อยาในผู้ป่วยแต่ละรายอาจจะแตกต่างกัน หากรับประทานยาสม่ำเสมอ อาการกำเริบซ้ำในครั้งต่อไปจะมีความรุนแรงน้อยกว่าเดิม หรือห่างขึ้นกว่าเดิม ในบางรายอาจไม่เป็นอีกเลย เหตุผลที่ต้องใช้ลิเธียมในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ ผู้รักษา ดังนั้นไม่ควรซื้อยานี้ใช้เอง
ลิเธียมจะเริ่มส่งผลต่อการรักษา เมื่อรับประทานยาติดต่อกัน 2 สัปดาห์และจะให้ผลดีเต็มที่เมื่อรับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์
ผลข้างเคียงจากลิเธียม
อาการข้างเคียงที่อาจพบในช่วงแรกๆ ของการรับประทานยา- ปากแห้ง อาการเหล่านี้แก้ไขได้โดยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ
- กระหายน้ำบ่อย อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
- ปัสสาวะมากขึ้นหรือบ่อยขึ้น
- รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว คลื่นไส้ ปวดมวนท้อง ถ่ายเหลวเล็กน้อย
- มือสั่นเล็กน้อยอาการนี้จะเป็นมากขึ้นถ้าร่างกายอ่อนเพลียตึงเครียด หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสารกาเฟอีน เช่น น้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มประเภทโคล่า
- ง่วงนอนเล็กน้อย
- ในบางรายอาจมีสิวมากขึ้น
ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้ลิเธียม
ต้องระวังไม่ให้เกิดภาวะลิเธียมเป็นพิษ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้าร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ หรือเสียเกลือแร่ไปมากอาการของลิเธียมเป็นพิษ
ได้แก่ ซึม ง่วงนอนมาก รู้สึกไม่สบายมาก อ่อนแรง มือและขาสั่นมาก กล้ามเนื้อกระตุก อาเจียนหรือคลื่นไส้มาก มึนงงและสับสน ท้องเสียรุนแรง พูดไม่ชัดภาวะที่ส่งเสริมให้เกิดภาวะลิเธียมเป็นพิษ
คือ ภาวะที่ร่างกายขาดน้ำหรือเสียเกลือ มีไข้สูง อาเจียน ท้องเสีย เหงื่อออกมาก เช่น อบเซาน่า กินอาหารที่มีเกลือน้อย กินอาหารลดความอ้วน หรือใช้ยาขับปัสสาวะถ้ามีอาการข้างต้นนี้
ควรหยุดลิเธียมไว้ก่อน รีบปรึกษาแพทย์ทันที และมาพบแพทย์โดยด่วน พร้อมทั้งแก้ไขเบื้องต้นด้วยตนเอง คือ ดื่มน้ำมากๆ รับประทานเกลือเพิ่มขึ้น เช่น ดื่มน้ำเกลือ น้ำอัดลมใส่เกลือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับลิเธียม
- ควรกินยาสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง ไม่ควรลดยาหรือหยุดยาเอง
- ลิเธียมไม่ทำให้เกิดการติดยา
- ถ้าลืมกินยามื้อหนึ่ง มื้อใด มื้อต่อไปให้กินขนาดปกติ อย่ากินเพิ่มในมื้อต่อไป
- อาจต้องเจาะเลือดเพื่อหาระดับยาในเลือด โดยแพทย์จะพิจารณาเวลาเจาะเลือดที่ดีที่สุดคือ หลังกินยาลิเธียมมื้อสุดท้าย 12 ชั่วโมง ระดับยาที่ได้ผลดีในการรักษาอยู่ระหว่าง 0.8-1.2 Meq/L ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย
- หญิงมีครรภ์และมารดาที่ให้นมบุตรไม่ควรใช้ยานี้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
- การกินลิเธียมไม่เป็นข้อห้าม ถ้าต้องการบริจาคโลหิต
- สามารถใช้ลิเธียมร่วมกับยาอื่นๆได้ เช่น ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ยาลดไข้ แก้ปวด ยาบำรุง ยาแก้หวัด แก้ไอ คุมกำเนิด ยากันชัก ยารักษาเบาหวาน เป็นต้น มีเพียงยาขับปัสสาวะเท่านั้นที่ต้องระวังเมื่อจะใช้ร่วมกัน โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์