อาการซึมเศร้าและโรคซึมเศร้าทางการแพทย์ไม่เหมือนกับที่คนส่วนใหญ่คิด ตราบาปจากสื่อทำให้คนปกติไม่เข้าใจคนป่วย และทำให้คนป่วยไม่เข้าใจตัวเอง บทความในโซเชียลถ้าไม่มั่วข้อมูลเน้นดราม่า ก็แปลศัพท์ทางการแพทย์ด้วยคำกว้างๆ จนทำให้ใครอ่านก็คิดว่าตัวเองเป็น บทความนี้ตรงข้าม สรุปข้อมูลเฉพาะที่สำคัญด้วยคำง่ายๆ ให้เห็นเกณฑ์ของหมอ เพราะคนป่วยต้องสามารถรู้ว่าตัวเองกำลังมีอาการอยู่หรือเปล่า จึงจะช่วยแพทย์รักษาเราได้ดีที่สุด
เราชอบใช้คำว่า “MDD” มากกว่า “โรคซึมเศร้า” เพื่อจะได้ไม่สับสนกับความเศร้าที่เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เราใช้คำว่า “มี MDD” เพราะเรามีโรคนี้ (ปัญหาที่สมอง) ไม่ได้ “เป็นโรคซึมเศร้า” เพราะเราไม่ใช่โรค เมื่อรักษาหายเราก็จะไม่มีมันแล้ว เราเป็นเราคนเดิม เป็นลูก เป็นแม่ เป็นแม่ค้า เป็นนักเรียน เราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า เราแค่มี MDD เข้ามาชั่วคราวเท่านั้น
อาการซึมเศร้า หรือ ดีเพรส, ภาวะซึมเศร้า, major depression, clinical depression, depressive episode
คือสมองหลุดเข้าไปค้าง
ในโหมดไร้พลังชีวิตเกิน 2 สัปดาห์
ซึ่งถ้าสแกนสมองก็จะเห็น มันเป็นคนละอย่างกับ “ความเศร้า” ซึ่งคือความรู้สึกเสียใจอะไรสักอย่าง แต่ยังใช้ชีวิตได้ปกติ ความเศร้าเกิดกับคนทั่วไปทุกวัน แต่ดีเพรสจะไม่เกิดกับคนที่ไม่ได้มีโรคซึมเศร้า เราชอบใช้คำว่า “ดีเพรส” มากกว่า “อาการซึมเศร้า” เพราะจะได้ไม่สับสนกับความเศร้า เพราะดีเพรสคือหมดพลัง ไม่จำเป็นต้องเศร้า อาจจะเบลอๆ ด้านชา ว่างเปล่า หรือขี้หงุดหงิดก็ได้
อาการหลัก
- พลังงานหมด, ทำอะไรไม่ไหวเลย, ไม่มีแรง, ไม่มีกำลังใจ
- มองตัวเองแย่, ไร้ค่า, รู้สึกผิด, รู้สึกทุกอย่างแย่, ชีวิตไม่มีอะไรดี
- เบื่อหน่ายทุกอย่าง, ความสนใจและความสุขหายไป, ไม่สนใจอะไรเลย, ไม่มีความสุขจากอะไรที่เคยมีความสุข
เงื่อนไข
- ต้องเป็นมากจนทำงาน/เรียนไม่ได้เลยหรือไม่ได้เรื่อง แม้กิจวัตรประจำวัน เช่นอาบน้ำแปรงฟันก็ลำบาก เป็นมากอาจจะออกจากบ้านไม่ได้ หรือออกจากห้องนอนไม่ได้ หรือลุกจากเตียงไม่ได้
- ต้องมีอาการแบบนั้นทุกวัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่ละวัน ไม่จำเป็นต้องมีอาการทั้งวัน อาจจะเช้าปกติแล้วมีอาการตอนเย็น หรือกลับกัน
โรคซึมเศร้า หรือ MDD, major depressive disorder
คือมีอาการดีเพรสอย่างน้อยครั้งนึง
บางคนอาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิต แต่หลายคนจะมีอาการดีเพรส (ใช้ชีวิตไม่ได้เป็นเดือน) แล้วก็หาย แล้วก็อาการกำเริบ ดีเพรสใหม่ (ใช้ชีวิตไม่ได้เป็นเดือน) แล้วก็หาย วนไปอย่างนี้หลายรอบถ้าไม่รักษา แต่ถ้ารักษาจนหายก็จะเป็นปกติตลอดเวลา ไม่มีอาการดีเพรสอีกเราชอบใช้คำว่า “MDD” มากกว่า “โรคซึมเศร้า” เพื่อจะได้ไม่สับสนกับความเศร้าที่เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เราใช้คำว่า “มี MDD” เพราะเรามีโรคนี้ (ปัญหาที่สมอง) ไม่ได้ “เป็นโรคซึมเศร้า” เพราะเราไม่ใช่โรค เมื่อรักษาหายเราก็จะไม่มีมันแล้ว เราเป็นเราคนเดิม เป็นลูก เป็นแม่ เป็นแม่ค้า เป็นนักเรียน เราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า เราแค่มี MDD เข้ามาชั่วคราวเท่านั้น
MDD ไม่ได้ทำให้ดีเพรสตลอดเวลา
คนที่มี MDD ไม่ได้ดีเพรสตลอดเวลา ไม่มีใครดีเพรสต่อเนื่องเป็นปี เราจะหล่นไปอยู่ในช่วงดีเพรสไม่กี่เดือน หลายเดือน แล้วก็จะหลุดออกมาเสมอ ชีวิตเรา (ที่ยังไม่หาย) จะมีช่วงที่ดีเพรสกับช่วงที่ไม่ดีเพรสสลับกัน ไม่ได้ติดเตียงอยากตายตลอดเวลา ยังมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า อ่านได้ที่ท็อป 5 ความเข้าใจผิด โรคซึมเศร้าไม่ใช่อย่างที่คิด
อย่างไรก็ตาม บางคนช่วงที่ไม่ดีเพรส ก็ไม่ได้กลับเป็นปกติ แต่ยังคงมีอาการดีเพรสอ่อนๆ คือสามารถไปทำงาน/เรียนได้ แต่พลังงานไม่เท่าเดิม ถ้าเป็นแบบนั้นเราต้องยืนยันกับหมอว่าเรายังไม่โอเค เพื่อให้หมอปรับยาจนหายดีเพรสขาด และไม่กลับมีอาการอีก เพราะบ่อยครั้งเวลาดีเพรสอ่อนๆ หมอจะพอใจว่าเราทำงานได้แล้ว หมอถามว่าเป็นไง เราบางทีเกรงใจหมอก็เลยตอบ “โอเค แต่...” ทั้งที่จริงๆเราไม่โอเค เพราะดีเพรสอ่อนๆนั้นแม้จะทำงานได้ แต่จะไม่ได้เรื่อง และเราจะท้อแท้รู้สึกแย่ตลอดเวลา หลายคนอยู่ตรงนี้เป็นปีๆ นานหลายปี ทั้งที่ปรับยาแล้วอาจจะช่วยให้หลุดออกมาได้
อย่างไรก็ตาม บางคนช่วงที่ไม่ดีเพรส ก็ไม่ได้กลับเป็นปกติ แต่ยังคงมีอาการดีเพรสอ่อนๆ คือสามารถไปทำงาน/เรียนได้ แต่พลังงานไม่เท่าเดิม ถ้าเป็นแบบนั้นเราต้องยืนยันกับหมอว่าเรายังไม่โอเค เพื่อให้หมอปรับยาจนหายดีเพรสขาด และไม่กลับมีอาการอีก เพราะบ่อยครั้งเวลาดีเพรสอ่อนๆ หมอจะพอใจว่าเราทำงานได้แล้ว หมอถามว่าเป็นไง เราบางทีเกรงใจหมอก็เลยตอบ “โอเค แต่...” ทั้งที่จริงๆเราไม่โอเค เพราะดีเพรสอ่อนๆนั้นแม้จะทำงานได้ แต่จะไม่ได้เรื่อง และเราจะท้อแท้รู้สึกแย่ตลอดเวลา หลายคนอยู่ตรงนี้เป็นปีๆ นานหลายปี ทั้งที่ปรับยาแล้วอาจจะช่วยให้หลุดออกมาได้
หมายเหตุ
บทความนี้เป็นการสรุปในภาษาชาวบ้าน มันไม่สามารถจะละเอียดและเที่ยงตรงทางการแพทย์ 100% แต่พยายามให้เที่ยงตรงมากที่สุด ในทางกลับกัน บทความจะพยายามที่สุดไม่ให้กำกวม เพราะบทความทั่วไปมักจะลิสต์อาการมากมายแต่นิยามไม่ชัดเจน ผลคือทำให้ทุกคนอ่านแล้วก็คิดว่าตัวเองเป็น กลายเป็นว่าฉันก็เป็นโรคซึมเศร้าเหมือนกัน แล้วคนป่วยจริงๆก็เลยไม่ได้รับความเห็นใจ
ถ้าสนใจรายละเอียดที่เที่ยงตรง อ่านฉันกำลังดีเพรสหรือเปล่า หรือฉันกำลังแมเนีย